วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เที่ยวเมืองเหนือ ดอยผาตั้ง

เห็ดหอมผัดน้ำมันหอย ผัดผักบรอคเคอรี่ ต้มยำ และอะไรอีกสามสี่อย่างทยอยมาลงที่โต๊ะ เรามากันแปดชีวิต

สองครอบครัวแต่อาหารสามารถเพียงพอสำหรับคนหนึ่งโหล สังเกตโต๊ะข้างๆ ตอนเราเข้ามามีลูกค้าอยู่ก่อนแล้ว

สองสามโต๊ะซุบซิบกัน แว่วๆเสียงเจ้าของร้านกระซิบบอกลูกค้าว่า พี่เขาโทรมาสั่งออเดอร์อาหารไว้ก่อนมาถึงค่ะ

แฮ่....นึกในใจมันเป็นความละเอียดรอบครอบของมนุษย์บางท่านที่หิวจัดในกลุ่ม เราแท้ๆ ทั้งๆที่สันญาณ

โทรศัพท์บนเขาระหว่างทางที่มาไม่ค่อยจะขึ้นเลยซักเม็ด ต้องขอชมเชยไว้ ณ ที่นี้

ข้าว สวยที่ว่าร้อนๆ เริ่มเย็นไปแล้ว ทั้งที่เราเช็ดช้อนเช็ดซ่อมยังไม่ทันเสร็จ ทุกคนนั่งคอหด ตัวงอ

บางคนดึงฮู๊ดคลุมหัว ปิดหู ลมแรงมากยิ่งหนาวเข้าไปอีก....มันหนาวดีแท้ เขาว่ายิ่งดึกยิ่งหนาว สี่ห้าองศา

น่าจะได้

น้ำชามาแล้วค่า แฟนเจ้าของร้านอาหารและรีสอร์ทใหม่เอี่ยมแห่งนี้ยกน้ำชามาให้พวกเรา ขณะที่เจ้าของ

ร้านผู้สามีเป็นอดีตทหารจีนฮ่อช่วยดูแลลูกค้าอย่างดี รู้ป่าวว่าทำไมน้ำชาร้อนๆมันจึงคู่กับขาหมู เพราะ

นอกจากมันแก้เลี่ยนแล้ว ยังช่วยละลายไขมันที่เรากินเข้าไปได้เป็นอย่างดี

ยี่สิบนาทีเห็นจะได้ บนโต๊ะเหลือแต่ของที่กินไม่ได้ อะไรจะปานนั้น

ไอติมมีป่าวคะ เสียงพวกเราคนหนึ่งถาม ไม่มีค่า มีแต่ผลไม้ที่สั่งไว้ เจ้ตอบมาจากโต๊ะเก็บเงิน

ล้อเล่น แกล้งถามดู ถึงมีก็ไม่ทานจ้า ขอบคุณจ้ะ

ระหว่าง ทางพวกเราผ่านดอยชี้ฟ้า คนเป็นหมื่น รถยนต์ เต้นท์นอน เต็มไปหมด ดีแล้วที่จุดหมายเราคือ

ดอยผาตั้ง เรามาถึงรีสอร์ทที่ดอยผาตั้งเกือบทุ่มหนึ่ง ที่พักไม่หรูแต่ใช้ได้เลย น่าพัก



เมื่ออาหารหมด เริ่มสังเกตสิ่งแวดล้อม จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกไกลไหมครับพวกเราถาม ขับรถขึ้น

ไปจากที่นี่อีกสามกิโลเอง ออกจากที่นี่ตีห้ากว่า กำลังดี เจ้าของรีสอร์ทตอบเหมือนรู้ว่า เราจะถามอะไรต่อ

จ่าย ค่าเสียหายเสร็จ เดินไปที่พัก มันหนาวได้ใจจริงๆ แหงนหน้าดูฟ้า ขนาดพระจันทร์ส่องแสง ดาวที่

บนดอยทุกดวงมันใหญ่กว่าที่กรุงเทพเยอะ สวยมากๆ

ตื่นๆ เร็วตีสี่แล้ว เตรียมตัวเดี๋ยวพลาดไฮไลท์สำคัญของงานนี้ อุตส่าห์ขับรถมาตั้งไกล ไม่ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น

ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งตัวด่วน ใครพร้อมจัดการเลย เสียงหัวหน้าทีมกำชับอีกครั้ง โปรดสังเกตไม่มีคำว่า
อาบน้ำ เลยครับผม น้ำอุ่นก็มีให้บริการ จะอาบยังไงไหว หนาวแท้ยิ่งตีสี่ตีห้าแบบนี้

ออกมาจากห้องพัก มีรถหลายคันขับไปก่อนหน้าแล้ว จอดตรงไหนได้บ้าง รถมากจริงๆ เราถามเจ้าหน้าที่ที่

โบกรถอยู่ รถเป็นร้อยในลานจอด ขับตามไปเลยครับ ด้านในครับผมเสียงเจ้าหน้าที่ตอบ ความคิดบรรเจิด

เกิดขึ้น ถ้าเราเข้าไปด้านใน เวลาออกคงยุ่งแน่ รถมันจะบล็อกกันวุ่นวาย ออกยาก

เฮ้ยข้างหน้าริมทางว่างพอสองคัน ไปด่วน พวกเราชี้ไปข้างหน้า เรียบร้อยโชคดีแท้ จอดรถเดินขึ้นไป

จุดชมวิวข้างบน เขาเรียกว่าเนิน 102 และเนิน 103 ผู้คนต่างรีบเดินขึ้นไปเพื่อจับจองพื้นที่ชมวิว

ผมว่าผมอยู่ตรงนี้นะ เนินตรงนี้ที่มีเก๋งจีนนี่ ขี้เกียจเดินต่อขึ้นไปข้างบน ข้างบนคนเยอะมาก ผมบอก

พรรคพวก โอเค แล้วค่อยมาเจอกัน ถ่ายรูปมุมนี้ไว้ ผมจะถ่ายมุมข้างบนแล้วมาแชร์กันนะเพื่อนตอบ

สังเกตดูนักท่องเที่ยวเกือบทุกคนมีอาวุธประจำกาย.... กล้องถ่ายรูป ตัวเอง ถ่ายตรงนี้หน่อยซิ มุมนี้

สวยมากเลย ถ่ายไว้ๆ มึงไปยีนตรงโน้น กูจะถ่ายให้ ใช้แฟลชด้วยนะ ยังมืดอยู่เลย แสงไม่พอ เสียงวัยรุ่น

สาวสวย หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตะโกนกันไปทั่ว บรรยากาศดีจริงๆ

พระ อาทิตย์ยังไม่ขึ้น มีแต่แสงเรื่อๆที่ขอบฟ้า มองออกไปเห็นแต่ทะเลเมฆ ทะเลหมอก ขาวไปทั่วในหุบเขา

เป็นแนวยาวไปเป็นทาง ใต้เมฆลงไปคือ ลำน้ำโขง แต่มองไม่เห็น มีแต่เมฆหมอกสวยมาก ทิวเขาด้านหน้า

เป็นดินแดนประเทศลาว คิดว่าถ้าแสงมากว่านี้จะสวยขึ้นอีก อากาศหนาวจัด ได้ฟีลลิ่งดีจัง




เสียง ผู้คนเริ่มฮือฮาขึ้น ใช่แล้ว ....แสงสีแดงแสดเริ่มจับขอบฟ้าเหนือทิวเขา เสียงคนจากเนินข้างบนดัง

ขึ้นก่อนเพราะเขาอยู่สูงกว่า จะสามารถเห็นพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาก่อน นักท่องเที่ยวจ้องตาไม่กระพริบ
ใจจดใจจ่ออยู่กับแสงสีที่ค่อยๆปรากฏขึ้น เสียงชัตเตอร์ดังรัวเป็นปืนกล ถ่ายภาพกันแบบไม่อั้น อั้นไม่ไหว

แล้ว สวยมั่กมั่ก เกินกว่าจะบรรยาย เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก ภาพชัดเจนขึ้น เขาสีเขียวตัดกับทะเลเมฆ

ปุยนุ่นสีขาว สงบนิ่ง หมอกอ่อนๆเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาตามกระแสลม กระจายไปทั่ว ยิ่งสายหมอกจะยิ่งหนาขึ้น

สวยงามไปคนละแบบ สุดยอดจริงๆ คุ้มค่า คุ้มเวลา ผู้คนเริ่มกระจายหาจุดหามุมถ่ายภาพ แสงเต็มที่แล้ว

แต่ก็ยังคอหดอยู่เช่นเดิม กลับไปดูรูปทุกคนจะเห็นภาพตัวเองคอหด มือซุกกระเป๋า อกผายไหล่ผึ่งไม่ค่อย

มีหรอก เป็นสัจธรรมเมื่อ ถ่ายรูปเมืองหนาว หนาวจัดแค่ไหนสังเกตจากคอว่าหดมากขนาดไหน




อิ่มเอมกับธรรมชาติมาพอควร เดินหากาแฟและขนมกินรองท้อง ก่อนกลับไปที่จอดรถ

ลง มาที่จอดรถ ว่าแล้วเชียวเสียงนกหวีดดัง เสียงตะโกนดังไปทั่ว รถมันจอดบล็อกกัน รถมากจริงๆครับ

นี่ขนาดมีเจ้าหน้าที่ดูแล ถ้าจอดกันตามใจชอบผมว่า สงครามย่อยๆ

พวกเราสบายหน่อย รถจอดด้านหน้าริมถนน ออกง่ายดายสะดวกโยธิน กลับถึงที่พักพอลงรถครบถ้วน

ทุกคน หนาวปีหน้าไปไหนดีวะ เขาว่ามีที่เที่ยวใหม่อยู่ห่างปายไปหน่อย ยังเวอร์จิ้นมาก สวยกว่าปาย...

... น่าสนๆ งานนี้ยังไม่ทันจบ หางานใหม่เข้ามาแล้ว

อาหาร เช้า.... ข้าวต้มที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ อร่อยมาก แต่ทุกอย่างเหมือนเดิมนั่งคอหด ตัวงอเหมือน

มื้อเย็นวาน ซดข้าวต้ม เก็บของเช็คเอาท์ เพื่อไปเชียงของต่อไป บ้ายบาย ผาตั้ง

ที่มา : ขอขอบคุณ bonsaibaan.com
  

ฟ่าน...... ข้าวสวยสุกใหม่ๆ หอมกรุ่น ควันโขมงถูกตักเสริฟใส่จานพวกเราทุกคน มาแล้วขาหมูยูนาน หมั่นโถ